แผลกดทับ (pressure ulcer) เป็นความผิดปกติของผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังที่เกิดจากการกดทับบริเวณที่มีกระดูกยื่นออกมาเป็นเวลานานจนทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณนั้นไม่เพียงพอ ส่งผลให้เซลล์ตายและเกิดแผลขึ้น แผลกดทับมักพบในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เอง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอัมพาต ผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
หากแผลกดทับไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ผลเสียต่างๆ ดังนี้
- แผลลุกลาม แผลกดทับที่ไม่ได้รับการดูแลอาจลุกลามลึกลงไปถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก หรือเอ็น ส่งผลให้แผลหายยากและใช้เวลานาน
- การติดเชื้อ แผลกดทับเป็นภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย หากแผลกดทับไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ หรือกระดูก ส่งผลให้แผลหายยากยิ่งขึ้นและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด
- ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ แผลกดทับที่รุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหาร ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท ภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด และภาวะแทรกซ้อนทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
- ความพิการ แผลกดทับที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ป่วยพิการได้ เช่น พิการทางร่างกาย พิการทางจิตใจ หรือพิการทางสังคม
การป้องกันและการดูแลแผลกดทับ
การป้องกันและการดูแลแผลกดทับอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีแผลหายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ต่อไปนี้เป็นแนวทางการป้องกันและการดูแลแผลกดทับ
การป้องกันการเกิดแผลกดทับ
- เปลี่ยนท่านอนทุก 2-4 ชั่วโมง
- ยกแขนและขาขึ้นเพื่อป้องกันการกดทับ
- ใช้อุปกรณ์ลดแรงกดทับ เช่น เตียงลม หมอนรองกระดูก
- ดูแลผิวหนังให้สะอาดและแห้ง
- ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ
การดูแลแผลกดทับ
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือปราศจากเชื้อ
- ปิดแผลด้วยวัสดุที่เหมาะสม
- เปลี่ยนวัสดุปิดแผลทุกวันหรือเมื่อเปียกชื้น
- สังเกตอาการของการติดเชื้อ
- ประเมินความรุนแรงของแผลและแจ้งแพทย์หากแผลไม่ดีขึ้น
หากผู้ป่วยมีแผลกดทับ ผู้ดูแลควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำในการดูแลแผลกดทับอย่างเหมาะสม